สรุปสาระสำคัญ การประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท JMART
คุณอดิศักดิ์ได้พูดถึงภาพรวมของตลาดโทรศัพท์มือถือว่ายังมีอนาคตอีกไกล ปีนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นหลังจากที่มีการประมูล 3G จากก่อนหน้านี้ที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าผู้ที่มีเครื่องโทรศัพท์ที่สามารถใช้กับระบบ 3G ในประเทศไทยมีประมาณ 20% ของทั้งหมด แต่ข้อมูลล่าสุดหลังจากที่ได้พูดคุยกับโอเปอร์เรเตอร์รายใหญ่กลับพบว่า เครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ 3G ได้ในปัจจุบันมีเพียง 12-13% เท่านั้น ทำให้มองว่าโอกาสเติบโตของตลาดมือถือยังมีอีกมหาศาล
ปัจจุบัน JMART เป็นดีลเลอร์รายใหญ่ของซัมซุง และมือถือซัมซุงก็มีสัดส่วนยอดขายในร้าน JMART สูงมากถึงประมาณ 50% ของยอดขายทั้งหมด แต่ JMART ยังคงยืนยันที่จะรักษาความเป็นร้านขายมือถือที่ขายทุกแบรนด์ ทุกโอเปอร์เรเตอร์เอาไว้ เนื่องจากประสบการณ์ในธุรกิจมือถือที่มีความไม่ยั่งยืนของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น MOTOROLLA ในยุคแรก NOKIA ในยุคต่อมา และปัจจุบันเป็น SAMSUNG ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดแข็งของ JMART
แผนการบุกตลาดต่างประเทศของ JMART ในปีนี้ จะตั้งบริษัทโฮลดิ้งเพื่อลงทุนในบริษัทร่วมกับพาร์ทเนอร์ในพม่า เหตุที่ต้องมีพาร์ทเนอร์ร่วมทุนเนื่องจากปัจจุบันยังติดข้อจำกัดด้านกฎหมายในการค้าปลีกในพม่า ภาพรวมตลาดพม่าตอนนี้ คุณอดิศักดิ์บอกว่าน่าจะเหมือนเมืองไทยเมื่อ 20 ปีก่อน ที่การกระจายของการค้ายังมีน้อย ปัจจุบันมีประมาณ 20% จากตรงนี้จึงเห็นโอกาสที่จะเข้าไป ส่วนโมเดลธุรกิจในพม่าอาจจะไม่จำกัดเฉพาะขายมือถือ แต่คงมีสินค้าอื่นร่วมด้วย
เป้าหมายของ JMART ในปีนี้ ตั้งเป้าเปิดสาขาเพิ่ม 60 สาขา เฟรนด์ไชส์ 10 สาขา รวมเป็น 70 สาขา ส่วนของเฟรนด์ไชส์จะทยอยเปิดแบบค่อยเป็นค่อยไป ปัจจุบันเฟรนด์ไชส์พร้อมเปิดมีแล้ว 3 สาขา
ธุรกิจพื้นที่เช่าปัจจุบันมี IT JUNCTION อยู่ 40 แห่ง มี Dealer เช่าพื้นที่อยู่ประมาณ 1,200 ราย การขยาย IT JUNCTION หากพื้นที่ไหนมีศักยภาพก็จะค่อยๆ ขยายไปเรื่อยๆ
เป้าหมายการเติบโตในภาพรวมตั้งไว้ที่ประมาณ 40% โดยมาจากการเติบโตของร้านค้าเดิม 20% การเติบโตจากการจัดงาน 10% และการเติบโตจากร้านค้าใหม่ 10% เน้นการเติบโตของกำไรมากกว่ายอดขาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น