ประสาร ไตรรัตน์วรกุล (ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย)
เงินถูกอัดฉีดเข้ามาในระบบเป็นจำนวนมาก
จากการใช้นโยบายการเงินของธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ
ส่วนหนึ่งทำให้เงินไหลเข้าตราสารหนี้เหตุผลก็คือเป็นที่พักเงิน
และรักษาเงินต้นได้ดี
พบว่ามีเงินไหลเข้าตราสารหนี้ของไทยในระยะเวลา 1 ปีขึ้นไปถึง 75% สำหรับ 1 ปีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.75% แม้อัตราผลตอบแทนจะน้อยแต่ก็ทำให้แบงค์ชาติขาดทุนจากการถือดอลล่าร์ที่ฝรั่ง เอามาแลกกับเงินบาท 7 แสนล้านบาทแล้ว (ดอลล่าร์ผลตอบแทนต่ำ 0.25% ขาดทุนส่วนต่างดอกเบี้ย)
เหตุที่เงินทุนไหลเข้าตราสารหนี้ไทยนอกจากรักษาเงินต้นและกำไรจากส่วนต่าง ดอกเบี้ยแล้ว ก็เพราะว่าทั้งการคลังและแบงค์ชาติยังไม่มีนโนบายการสกัดกั้นเงินไหลเข้าจาก ต่างชาติ ด้วยเหตุผลว่า
พบว่ามีเงินไหลเข้าตราสารหนี้ของไทยในระยะเวลา 1 ปีขึ้นไปถึง 75% สำหรับ 1 ปีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.75% แม้อัตราผลตอบแทนจะน้อยแต่ก็ทำให้แบงค์ชาติขาดทุนจากการถือดอลล่าร์ที่ฝรั่ง เอามาแลกกับเงินบาท 7 แสนล้านบาทแล้ว (ดอลล่าร์ผลตอบแทนต่ำ 0.25% ขาดทุนส่วนต่างดอกเบี้ย)
เหตุที่เงินทุนไหลเข้าตราสารหนี้ไทยนอกจากรักษาเงินต้นและกำไรจากส่วนต่าง ดอกเบี้ยแล้ว ก็เพราะว่าทั้งการคลังและแบงค์ชาติยังไม่มีนโนบายการสกัดกั้นเงินไหลเข้าจาก ต่างชาติ ด้วยเหตุผลว่า
- การคลังก็ไม่ออกนโยบายภาษีของนักลงทุนต่างชาติมาสกัดกั้น เพราะพึ่งไปจะไปโรดแมป ดึงลงทุนต่างชาติอยู่เลย ตามนโยบายเศรษฐกิจการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
- แบงค์ชาติก็ไม่ลดอัตราดอกเบี้ย เพราะถ้าจะลดแค่ 0.25-0.50% ก็ยังมีส่วนต่างของดอกเบี้ยให้เงินไหลเข้ามาอยู่ดี ไม่ได้ช่วยสกัดกั้นอะไรนอกเสียจากจะลดลง 1-2% ซึ่งนั้นจะทำให้เกิดฟองสบู่และหนี้ครัวเรือนก็จะสูง
ล่าสุดเมื่อวาน(30 เม.ษ. 56) หลังจากปรึกษากันเสร็จ
แบงก์ชาติก็ออกมายันแล้วว่าไม่ลดดอกเบี้ยให้คงไว้ที่ 2.75%
ตอนนี้แบงค์ชาติเหมือนแพะเลยว่าเป็นคนทำให้บาทแข็งไม่ยอมมีนโยบายอะไรในการแก้ปัญหา ยังไงก็ตามขอเอาใจช่วยท่านประสาร ในการแก้ไขเงินบาทแข็งค่านะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น