หน้าแรก

2/26/2556

JMART : Opp day Feb 26, 2012

เปิดด้วยการที่คุณอดิศักดิ์บอกว่าบริษัท JAS ASSET เตรียมเข้าตลาดปีหน้า
  • JMART 23 ปี, JMT 18 ปี, JAS 15 ปี
  • ปีนี้ตลาดรวมจะมียอดขาย 72,000 ล้านบาท JMART 10,000 ล้านบาทคิดเป็น Market Share 14%
  • การมี Market Share มากๆ ไม่ใช่ Solution ที่ดีที่สุด คือขายราคาถูก เน้นเอาวอลุ่มแต่มาร์จิ้นจะน้อย 
  • ปี 55 ส่วนแบ่งตลาดโดยรวม ฟีเจอร์โฟน สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต 20% 63% 18% ตามลำดับ
  • Average selling price ของ JMART 6,873 บาท ของ GFK 4,000 บาท ใน 4Q55 
  • Assassorie มีมาร์จิ้นดีเฉลี่ย 30% และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ 
  • สาขาในต่างจังหวัด 52% สร้างยอดรายได้ 34% ใน กทม. 48% สร้างยอดรายได้ 66%
  • Inventory Turnover อยู่ที่ 39.60 วัน ในตลาด JMART ทำได้ดีที่สุด
โอกาสในปี 2013 - 2016
  • AIS DTAC TRUE รวม 75 ล้านเบอร์
  • 20% เป็น 3G แล้วมีอยู่ 15 ล้านเบอร์ ยังเหลืออีก 60 ล้านเบอร์ที่ต้องเปลี่ยนเป็น 3G
  • โฆษณา "เมืองไทยผ่านมือถือ" ต้องการบอกว่า เราอยู่มานาน เราเป็นผู้นำในตลาด เราทำเรื่องผ่อนชำระเป็นรายแรก เราทำเรื่องส่งมือถือเป็นการแรก เราทำเรื่องมือถือสำรองระหว่างซ่อมเป็นรายแรก เรามีสาขามากที่สุด ไม่ใช่ Hard Sale สรุปคือ JMART เป็นแบรนด์ที่ไว้วางใจได้
  • ร้าน BlackBerry ที่พารากอนจะเปลี่ยนเป็น Samsung เนื่องจากยอดขายน้อยมากเพียง 15-20% ของ Samsung Shop เท่านั้น
  • Samsung Shop ที่ฟิวเจอร์ รังสิต เจ้าของพื้นที่ให้ JMART
พื้นที่เช่า JAS ASSET
  • ปีนี้ได้พื้นที่เช่าเพิ่มอีก 10 แห่ง รวม 30 แห่ง ปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 40 แห่ง (BigC มี 100 กว่าสาขา แต่ทำได้ 60-70 แห่ง)
  • ทำใน Lotus ไม่ได้ต้องเลือก ระหว่าง BigC กับ Lotus 
  • พื้นที่เช่ารวมปี55 10,282 ตารางเมตร ราคาค่าเช่า 1,969 บาทต่อตารางเมตร
  • รายได้เพิ่มขึ้น 10% yoy
การเงิน
  • เผื่อสต็อกไว้สำหรับจัดงาน Events ที่เห็นในงบสินค้าคงค้างเยอะๆ
  • Property, Plant เพิ่มขึ้นที่ 731 ล้านบาท เนื่องจากสร้าง Office ใหม่ของเจมาร์ทที่สุขาภิบาล 3
  • ที่ดินอสังหาริมทรัพย์ที่วังหิน 211 ล้านบาท
  • ธุรกิจมือถือมาร์จิ้นอยู่ที่ 13% (เดิม 12%)
  • ธุรกิจเช่าพื้นที่มาร์จิ้นอยู่ที่ 17% (เดิม 17%)
  • D/E 0.75 น้อยมาก , ROE 29, ROA 13
Q&A
  • Assassorie, jFone, Samsung เป็นสินค้า High margin เอามาเพิ่ม Gross margin
  • การบริหารมาร์จิ้น JMART น่าจะ max ที่สุดในตลาด
  • เวลาสินค้าเหลือผู้ผลิตมือถือจะลดราคาแต่ JMART ยังได้มาร์จิ้น 12-15% เหมือนเดิม และแถมเขาก็ส่งคนมาขายด้วย ประหยัดไปอีก ปัจจุบันโปรโมเตอร์มีถึง 200 คนที่มาช่วย
  • เวลาจัดงาน Events มีเจ้ามือร่วม JMART จ่ายเฉพาะส่วนของการ Operate แฟร์สำหรับทุกราย
  • จัดงานมา 10 กว่าปี ปีแรกๆ ขาดทุน Give before take
  • ปีนี้ตั้งโปรเจ็ค AEC และเราจบดีลแล้วที่พม่า เราไปแน่นอน ปัจจุบันซิมเขาราคา 9,000 บาทถ้าซิมเหลือ 90 บาท เครื่องมือถือจะขนาดไหน
  • ยืนยัน AEC เกิดแน่ ที่แรกไปพม่า ไปปีนี้
  • จุดเด่นที่ดีกว่าคู่แข่งรายอื่น คือ หัวใจ Back Office การจัดการระบบสินค้าคงคลังที่ใช้ Oracle มา 8 ปี ตอนนั้นเริ่มต้นที่ 50-60 ล้านบาท และ JMART เป็นครอบครัว
  • ตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะเอา JAS เข้าตลาด (เหมือนกับ JMT) แต่ไปนั่งคิดดูว่าจะทำยังไงให้ IT Junction เป็นไอคอนให้กับ BigC ถ้าขยายอายุสัญญาเช่าให้ก็จะทำให้เยี่ยมเลย ก็เลยเพิ่มทุนดีกว่า
  • IPO JAS ASSET ให้ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนอยู่แล้ว
  • กรณีหนี้สูญและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเยอะจากปีก่อน เนื่องจากลูกหนี้บางส่วนเกินดีลเกิน 3 งวดจากการผ่อนมือถือ
  • บางอย่างมีไว้เพื่ออุดช่องว่าง ถ้าเราทำ jFone ประสบความสำเร็จแบรนด์อื่นอาจจะไม่ชอบคุณ ต้องเลือกข้าง
  • เมื่อก่อนขาย jFone เดือนละ 20,000 เครื่องเราขาดทุน แต่ปัจจุบันขาย 7,000 - 8,000 เครื่องเรากำไรเดือละ 4 ล้านบาท
  • จุดระวังของ JMART คือ Inventory
  • JMART เป็นระบบแรกและระบบเดียวที่ Integrate กับระบบ Samsung Center
  • ยังยืนยันเป็นผู้นำ ไม่ใช่ TG Fone
  • พิจารณาตลอดว่าเดือนนี้จะปิดที่ไหน ไม่ได้พิจารณาว่าจะเปิดที่ไหน เพราะมันเปิดทุกที่อยู่แล้ว แต่เราจะพยายามหาตัวที่มันแบกรับอยู่
  • มีข้อตกลงกับ AEON ว่าเราจะขยายแขนขาให้ โดยทำบริการ ส่งแอพ วางบิลให้ ได้ค่าคอมจากการทำ 2 แสนบาท
  • Samsung Shop 4 ร้าน รายได้ 100 ล้านบาทต่อเดือน ปีนี้เปิด Samsung Shop อีกเยอะ

2/24/2556

SNC : Opp day Feb 18, 2013 part 2 Q&A

วันที่ 4 เม.ษ. เยี่ยมชมโรงงานใหม่ (เช่าพื้นที่) ลงทุนเครื่องจักรใหม่ 200-300 ล้านบาท
ดึงคุณสมชาย (จบ ป.โท ที่ญี่ปุ่น) มาทำโครงการใหม่ที่ระยอง (ให้รองกรรมการทำหน้าที่แหลมฉบังแทน) ซึ่งลูกค้า 100% เป็นญี่ปุ่น และผู้บริหารคนใหม่ 3-4 ท่านเป็นคนญี่ปุ่นหมด โรงงานใหม่ที่ระยอง 4 เดือนเสร็จ เสร็จใน Q2 โดนค่าเสื่อมหนักๆ ที่ Q3, Q4 และจะเชิญไปดูโรงงาน Q3 ต้นปี 2014 รับรู้รายได้ทั้งหมด แต่ปีนี้รับรู้ขาดทุนก่อน 8-10 ล้าน ปีหน้าถ้าไม่มี order เต็มก็จะรับรู้ขาดทุนอีก 8-10 ล้าน เช่นกัน
  • ธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ดีในต่างประเทศ เช่น foxconn โตโดยการ take over
  • ต้องการเป็น First tier ทั้งรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • โรงงานใหม่ที่ระยองจะมีตึกเฉพาะสำหรับการออกแบบและทดสอบผลิตภัณฑ์ลดภาระตรงนี้ให้ลูกค้าเพื่อก้าวเป็น First tier ถ้าเป็น Second tier ไม่ต้องออกแบบ
  • ก่อน AEC จะเกิดต้องสร้างคนเกือบ 200 คน เป็น Mini MD เพื่อรองรับ order และการแข่งขัน
  • การลดราคาให้ลูกค้ายังเกิดขึ้นต่อไป อุตสาหกรรมรถยนต์แต่ละปีลด 5% ถือเป็นตั๋วเบิกทางเข้าไป ถ้าซัพพลายเออร์เก่าเขาลดไม่ได้ 
  • งบลงทุนปี 2556 ประมาณ 700 ล้าน
  • ลูกค้าบริษัทตั้งใหม่ของ Aluminum คือ กลุ่มของรถยนต์ทั้งหมดและกลุ่มของแอร์บ้านมี 3 ราย เป็นรายใหญ่ทั้ง 3 ราย ตอนนี้เทคนิคและราคาผ่านหมดแล้ว 1Q14 จะแจ้งให้ทราบว่ามีใครบ้าง
  • ออเดอร์ซูซุกิได้ปี 2556
  • งานรถยนต์เป็น Second tier หมดตอนนี้ การลงทุนใหม่นี้เพื่อเป็น First tier 
  • ลายโรบอทที่ลงทุน 150 ล้าน เสร็จเมื่อเดือนสิงหา 55 ตอนนี้ทำชิ้นส่วนงานรถยนต์เป็นหลัก
  • ค่าแรง 300 บาท กระทบ 0.5% แต่ปรับมาตั้งแต่ เม.ษ. 55 แล้ว คือกระทบไปหมดแล้ว
  • แอร์ 1 ตัวในอนาคตจะขายตามน้ำหนัก กิโลเท่าไหร่
  • แอร์ 1 ตัวมี เหล็ก, พลาสติก, ทองแดง, อลูมิเนียม เป็นต้นทุนหลัก ถ้าทำให้เล็กและเบาได้ ก็จะเป็นอลูมิเนียมที่มาแทนตรงนี้ในอนาคต
  • เครื่องทำน้ำร้อนร่วมมือกับแอตแลนติกร่วมมือกันมา 2 ปี ส่งขายฝรั่งเศส
  • ปีนี้ทำ heat pump กับแอตแลนติกส่งให้เขาไปประกอบกับแท้งค์น้ำ และมีอีกโปรเจคหนึ่งทำตลาดในอาเซียน 
  • ยอดขายแอตแลนติกประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
  • ค่าใช้จ่ายผู้บริหารที่มาใหม่ เพิ่มขึ้นเดือนละ 3-4 ล้านบาท 
  • ค่าเงินบาทแข็งมีผลทางตรงกับลูกค้าของ SNC เพราะเขาจะขายของไม่ได้
  • งานพวกข้อต่อ พวกไปป์ มีโอกาสได้งานของ Honda ที่เป็นรุ่น New Jass และ New City
  • อยากให้เติบโตในแต่ละ segment ส่วนของรถยนต์โต 20%, OEM 40% (จะลดลงเพราะเราจะเอาแต่ที่ได้งานต้นน้ำด้วย) 
  • คาดว่าอีก 3 ปี จะโต 10-15% ต่อปี
  • โรงงานใหม่กำลังขอ BOI เชื่อว่าได้
  •  

SNC : Opp day Feb 18, 2013 part 1 รายงาน

ผู้บริหารเปิดด้วยการพูดว่าครั้งนี้น่าจะมีคำถามแรงๆ เนื่องจากผลประกอบการปี 2555 ไม่ดีเท่าที่ควร
  • ยอดขาย 7,648 ล้านบาท ลดลง -8% yoy เนื่องจากธุรกิจ OEM ลดลง แต่ธุรกิจชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถยนต์เพิ่มขึ้น
  • กำไร 494 ล้านบาท ลดลง -5% yoy เนื่องจากรายได้ของธุรกิจ OEM ลดลง, ย้ายโรงงานชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถยนต์, เตรียมป้องกันน้ำท่วม, ค่าแรง 300 บาท, การเตรียมผู้บริหาร
อุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทย
  • ยอดผลิตแอร์บ้านปี 2555 เพิ่มขึ้น 21% yoy ปี 2556 คาดเพิ่มขึ้น 5% yoy
  • ยอดผลิต Compressor ปี 2555 ลดลง -5% yoy ปี 2556 คาดเพิ่มขึ้น 5% yoy
  • ยอดผลิตตู้เย็นปี 2555 เพิ่มขึ้น 19% yoy ปี 2556 คาดเพิ่มขึ้น 14% yoy
  • ยอดผลิตเครื่องซักผ้าปี 2555 เพิ่มขึ้น 5% yoy ปี 2556 คาดเพิ่มขึ้น 8% yoy 
ธุรกิจรถยนต์ (แนวโน้มดี)
  • ยอดผลิตรถยนต์ปี 2555 ทั้งหมด 2.428 ล้านคัน แบ่งเป็นในประเทศ 59% ส่งออก 41% รัฐบาลคาดปี 2556 มียอดผลิต 2.5 ล้านคัน แบ่งเป็นในประเทศ 50% และส่งออก 50% 
  • ยอดขาย 954 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 42% yoy
  • กำไร 95 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2% yoy กำไรที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้น้อยเนื่องจากการย้ายโรงงานและการลดราคาให้ลูกค้าในการรักษา Order
การเงิน คุณรัฐภูมิ นันทปถวี ดูไม่ค่อยมี Power
  • Cash Cycle ปี 2554 ติดลบ 3 วัน ปี 2555 ติดลบ 6 วัน (เราสามารถขายสินค้าหรือบริการ และเก็บเงินลูกหนี้ได้ก่อนที่จะจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ที่เราซื้อวัตถุดิบ)
  • ลูกหนี้การค้าปี 2554 40 วัน ปี 2555 46 วัน
  • สินค้าคงเหลือ 12 วัน เท่ากันทั้งปี 54 และ 55
  • เจ้าหนี้การค้าปี 2554 56 วัน ปี 2555 64 วัน
  • D/E เพิ่มจาก 0.6 เป็น 0.9 เนื่องจากการลงทุนโรงงานใหม่, ป้องกันน้ำท่วม
  • อัตราการจ่ายปันผลเทียบกำไรทั้งแต่ปี 2007 - 2012 คือ 66% 136% 145% 75% 88% 93%
ปี 2013 มีการลงทุนใหม่เกิดขึ้น
1. มีการตั้งบริษัท International Techno pipe Co., Ltd. ลงทุน 50 ล้านบาท ก่อให้เกิดรายได้ตั้งแต่ 1q13 เลย เป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนท่อทองแดง

2. มีการตั้งบริษัท SNC Creativity Anthology Co.,Ltd. ลงทุน 500 ล้านบาท เงินลงทุนมาจากกำไรปี 2013 และกู้สถาบันการเงิน (ตอนนี้กู้ไปแค่ 50 ล้านบาท ยังกู้เพิ่มได้อยู่ ยังอยู่ในวงเงิน)
ช่วง 1q-3q เป็นการจัดตั้งโรงงาน
ช่วง 3q13 เครื่องจักรถยอยเข้า
ช่วง 4q13 ผลิตสินค้าเพื่อเสนอตัวอย่างให้กับลูกค้า
รับรู้รายได้ 1q14
เป็นบริษัทผู้ผลิต Aluminum forging และ Aluminum condenser

เพิ่มเติม: ผู้ผลิตชิ้นส่วนประเภท OEM จะประกอบไปด้วยกลุ่มที่เรียกว่า First-Tier Suppliers ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานรถยนต์โดยตรง และกลุ่มที่เป็นระดับ Second-Tier Suppliers ลงไป ซึ่งจะรับช่วงการผลิตเพื่อป้อนชิ้นส่วนบางประเภทให้กลุ่มแรกอีกทอดหนึ่ง (รายละเอียด)


2/23/2556

JMART : ดูงบบัญชีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปี 2555


เมื่อดูกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะเห็นว่าเงินสดดำเนินงานปี 2555 ติดลบอยู่ ดูแล้วตัวเลขส่วนนี้โยกไปอยู่สินค้าคงเหลือส่วนใหญ่ (มีลูกหนี้การค้าบ้างเล็กน้อย) แปลว่าสินค้าใน stock ตอนนี้เยอะกว่าปกติ

ข้อดีคือซื้อเยอะๆ ได้ราคาถูกกว่าปกติ ข้อเสียคือเสี่ยงสินทรัพย์ด้อยค่า

และเมื่อดูต้องส่วนของรายได้ค้างรับก็ติดลบเช่นกัน ผมคิดว่าน่าจะเป็นส่วนกลับทางบัญชี คือ ได้รับเงินล่วงหน้ามาแล้ว แต่ยังไม่ได้กระจายสินค้า ถ้ากระจายสินค้าออกไปส่วนของสินค้าคงเหลือก็ความเสี่ยงน้อยลง เพราะเราได้เงินล่วงหน้ามาแล้ว

แต่ก็ยังเหลือสินค้าคงเหลือมากอยู่ แน่นอนว่าถ้าทั้งหมดเป็นมือถือก็จะเสี่ยง แต่มันมีส่วนของอุปกรณ์เสริมอยู่ซึ่งพวกนี้มีอายุอยู่ได้เป็นปี และที่สำคัญมาร์จิ้นสูงมาก 

อัพเดต:
ข้อมูลยังไม่ถูกนะครับ แต่ผมไม่ลบเก็บไว้ศึกษาเพิ่มเติม เนื่องจากอยู่ๆ ผมก็นึกถึง Jay Market ขึ้นมาได้
รายได้ค้างรับ ที่เป็นตัวเลขในวงนั้นคือ "เพิ่มขึ้น" หมายความว่า ส่งสินค้าแล้วยังไม่ได้รับเงิน ถ้าทวงเงินไม่ได้ก็ขาดทุน

ดร. ภาพร เอกอรรถพร
จริงๆ รายการที่คุณพูดถึง 2 รายการคือ สินค้าคงเหลือและรายได้ค้างรับมีธรรมชาติที่เหมือนกันคือ เป็นสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งคู่ การที่สินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้นมีนัยว่าเงินสดลดลง หรือในทางกลับกัน เราสามารถตีความได้ว่า บริษัทจ่ายเงินซื้อสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น และให้ลูกค้าค้างเงินบริษัทมากขึ้น (รายได้ค้างรับคือ บริษัทให้บริการลูกค้าไปแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่ได้จ่ายเงิน)

สินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้น ถ้าเพิ่มเป็นปกติธุรกิจเนื่องจากขายขยายตัว ก็อาจไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าเพิ่มผิดปกติ ต้องหาเหตุผลประกอบว่าทำไม อาจเป็นเพราะบริษัทอาจเก็งกำไรเพราะสินค้ากำลังขาดตลาด หรือต้องการซื้อปริมาณมากเพื่อให้ได้ส่วนลด หรือคาดว่าราคากำลังจะขึ้น หรือขายสินค้าไม่ออก ฯลฯ
แต่สินค้าที่ซื้อเพิ่มขึ้นอาจไม่เป็นข้อบ่ง ชี้ว่าสินค้าจะล้าสมัยหรือไม่ (หรืออาจจะเป็น) พูดยากค่ะ คุณต้องดูอัตราส่วนอื่นประกอบ เช่น อัตราส่วนที่ใช้วัดว่าสินค้าน่าจะล้าสมัยคือ อัตราหมุนของสินค้าคงเหลือและจำนวนวันที่ถือสินค้าคงเหลือ ถ้ายิ่งยาวยิ่งมีโอกาสที่สินค้าคงเหลือนั้นจะล้าสมัยมากขึ้น
การ ประเมินสินค้าคงเหลือคงต้องดูหลายอย่างประกอบกัน การดูเฉพาะงบกระแสแล้วสรุปทันที อาจให้ข้อสรุปที่ไม่เที่ยงตรงทีเดียว เพราะแม้สินค้าคงเหลือเพิ่ม แต่ถ้าขายและต้นทุนขายเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่า การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลืออาจไม่เป็นปัญหาเลย

การวิเคราะห์งบกระแส เงินสดให้เน้นไปที่เรื่องของเงินสดว่าได้มาจากไหน ไหลออกทางไหน พอใช้หรือเปล่า แต่อาจไม่สามารถคิดไกลไปถึงประสิทธิภาพของการบริหารสินค้าคงเหลือค่ะ
ส่วน รายได้ค้างรับ ให้วิเคราะห์เช่นเดียวกับลูกหนี้ ในงบกระแสเงินสดเพียงแค่บอกว่ารายได้ค้างรับเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มแล้วดีไม่ดีอย่างไร ต้องไปวัดกันที่อัตราส่วนในการบริหาร เช่น อัตราการหมุนของลูกหนี้ จำนวนวันในการเก็บหนี้ และอื่นๆ เช่น แนวโน้ม อัตราส่วนร้อยละของยอกรวม ฯลฯ

ถ้าลูกค้าจ่ายเงินแล้ว เรายังไม่ได้ให้บริการเรียก รายได้รับล่วงหน้า ถือเป็นหนี้สินค่ะ ผลกระทบต่องบกระแสเงินสดคือ หนี้สินเพิ่ม เงินสดเพิ่ม

2/16/2556

JMART : เจมาร์ทแฟรนไชส์

วันนี้ไปงาน Thailand Franchise & SME ที่อิมแพคเมืองทองธานมาครับ มีโอกาสได้เข้าไปสอบถามข้อมูลของเจมาร์ทแฟรนไชส์มาบ้าง เอามาเล่าให้ฟังครับ
  • มีคนสนใจและพร้อมเปิดเจมาร์ทแฟรนไชส์แล้ว 4 ร้าน (ต่างจังหวัดทั้ง 4 ที่) ถ้าผมจำไม่ผิดจะมีที่ อุบล, อุดร, เชียงใหม่ อีกที่จำไม่ได้ คิดว่าคนที่เปิดอาจจะสนใจอยู่ก่อนแล้วและอาจรู้จักกับเจมาร์ทอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
  • คนที่เปิดแฟรนไชส์แล้วคือคนที่ขายมือถืออยู่ละ แต่ว่าต้องการระบบและชื่อแบรนด์ หรือบางคนมีที่อยู่แล้วสนใจ
  • ใครสนใจทางเจมาร์ทจะศึกษาพื้นที่ให้ก่อน ว่ามีโอกาสที่ดีไหม เขาไม่แนะนำ กทม. หรือแม้แต่ปริมณฑลเองก็ตาม (รังสิตยังไม่แนะนำเลย เน้น ตจว. แดนไกลล้วนๆ)
  • แฟรนไชส์นี้เจมาร์ทเน้นท้องถิ่น ขายคนท้องถิ่นกันเอง 
  • จะไม่ให้เจมาร์ทแฟรนไชส์ขายใกล้กัน หรือขายแข่งกันเอง 
  • สำหรับ IT Junction ก็จะมีร้านเจมาร์ทแฟรนไชส์ได้ แต่จะมีได้แค่ร้านเดียวในพื้นที่นั้น
  • ตจว. ไม่มีคู่แข่งแบรนด์ขายมือถือ 
  • รายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วตกประมาณ 30,000 - 40,000 บาทต่อเดือน เขาบอกว่ากรณีที่แย่ 1 ปีครึ่งคืนทุน คิดจากประสบการณ์ในการเปิดร้าน JMART มา 220 สาขา สาขาที่คืนทุนเร็วที่สุดคือ 6 เดือน ช้าที่สุดคือ 1 ปีครึ่ง 
  • มาร์จิ้นที่ได้จากการขายมือถือ 10-20% และอุปกรณ์เสริม 30-50% ไม่มีการบังคับให้ขายพ่วง ตามแต่ความสมัครใจของลูกค้า
  • มือถือที่รับมาจากเจมาร์ทจะรับมาถูกกว่าราคาส่ง ถ้าเรามีช่องทางสามารถขายส่งให้ร้านอื่นได้ เช่น Galaxy S III ตอนนี้ราคา 18,900 บาท จะรับมาที่ประมาณ 17,000 บาท กำไรที่ขายได้ 1,900 บาท เป็นของเราเต็มๆ
  • ถ้าเป็นร้านขนาดเล็กแนะนำ 2 คน สำหรับคนขายและคนคิดเงิน
  • ต่อเดือนต้องเสียให้เจมาร์ท 0.5% ของยอดขายทั้งหมด ถือเป็นค่าใบปลิวและของเล็กๆ น้อยๆ
  • เราต้องขายในราคาที่เจมาร์ทกำหนดไว้เท่านั้น จะขายมากหรือน้อยกว่าไม่ได้ ในกรณีที่มีสินค้าค้างสต็อก ระบบจะทำการแจ้งเตือนก่อน และถ้ายังขายไม่ได้จะได้รับการสนับสนุนจากเจมาร์ทในการแจกของพรีเมียมแถมเพื่อจูงใจการซื้อ (ซึ่งเจมาร์ทก็ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์มือถือมาอีกที่)  
  • ต้องเซ็นต์สัญญาก่อนถึงจะได้รับการฝึกอบรม
  • คาดว่าปีนี้จะมีเจมาร์ทแฟรนไชส์ 50 สาขา 
  • AIS, True, Dtac ไม่ได้รับมือถือจากเจมาร์ท เขาติดต่อรับมือถือจากแบรนด์เองทางตรงเลย 
ข่าว (ลิงก์), รายละเอียดเจมาร์ทแฟรนไชส์ (ลิงก์)
อีกมุมมองจากคอมเม้นท์ pantip (ลิงก์)

2/06/2556

JMART : Money Talk@SET : 3G กับ Megatrend 3/02/2013

หัวข้อ "หุ้นเด่นรับอานิสงส์ 3G" By i-salmon

แขกรับเชิญ
คุณอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL)
คุณอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท (JMART))
คุณกรัณย์พล อัศวสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น (SYMC)
คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK)

ภาพรวมบริษัท :คุณอดิศักดิ์ JMART
  • ธุรกิจจัดตั้งมา 23 ปี จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เสริม, เก็บหนี้
  • วันที่ 27 พ.ย.55 JMT เข้าตลาดเป็นธุรกิจติดตามหนี้รายเดียวในตลาด
  • ปี 55 เป็นปีที่มี performance ดีที่สุด ทั้ง JMART และ JMT
  • มีบริษัทย่อยอีกหนึ่งบริษัท ดำเนินการมาแล้ว 15 ปี spin-off ออกมา คือ JAS ASSET ทำพื้นที่เช่า เป็นการรับพื้นที่มาแล้วซอยเป็นห้องให้ ดีลเลอร์ที่ขายโทรศัพท์มือถือเช่า
    • มีจำนวน 32 แห่งทั่วประเทศ 
    • มีลูกค้าราว 1,000 ราย  
    • มีนโยบายแปลงเป็นบริษัทมหาชนในปีนี้ แล้วเอาเข้าตลาดในปีหน้า

  • รายได้หลัก มี 2 ส่วน ที่อยากกล่าวถึง 
    • ธุรกิจ Jmart high value low margin แต่ธุรกิจอย่าง jmt, jas มูลค่าต่ำแต่กำไรเยอะ 
    • IT Junction เป็นพื้นที่เช่า ธุรกิจกำลังแข็งแรงขึ้น
    • ยอดขาย 90% มาจากเจมาร์ท 6% เจเอ็มที 4% แจ็ส
    • กำไร 60% jmart 30% jmt 10% jas asset
  • ปัจจุบันจำนวนมือถือทั้ง 3 Operators 75 ล้านเลขหมาย เครื่องที่มีอยู่ปัจจุบัน 20% ที่ใช้ 3จีได้ Operator ต้องการย้าย 60 ล้านเครื่องที่ใช้ระบบเก่ามาใช้ 3g คลื่นความถี่ใหม่ ให้เร็วที่สุด เพราะคลื่นความถี่เดิมมีค่าใช้จ่ายเชื่อมโยง และเสียค่าสัญญาส่วนแบ่งรายได้สูง
  • เราจะเห็นเครื่องมือถือ 3G ราคาหนึ่งพันมาแน่นอน แต่เป็น 3G feature phone เพื่อมาใช้กับระบบ ไม่ใช่ smartphone
  • Market share ค้าปลีกมือถือของเราราว 13% จากคู่แข่งเป็นหมื่นราย ส่วน เก็บหนี้ เป็นเบอร์หนึ่ง
  • Jmt มีโอกาสดีจาก อิออน, first choice จะมีผ่อนสินค้ามากขึ้น และแบงค์ต่างๆที่ทำโปรโมชั่น 0%  
  • จากนี้ไปจะมีอีกหลายเรื่องที่ตามมา เรามีตลาดมือถือที่อยู่ในมือของเราอีกเป็น 1,000 ดีลเลอร์ ผมวางแผนกับ partnerไว้ เราต้องการ Raise fund เพื่อขยายตลาดให้เค้าด้วย เพราะจะมีโอกาสเพิ่มอีกมากจากการ migrate 3G
  • ปี 56 Jmart จะเปิดอีก 60 สาขา เปิดตลาดอีก 10 สาขา จะมีดีลเลอร์ 300-400 รายเข้ามา (30-40 รายต่อสาขา) กลุ่มเหล่านี้และหน้าร้านเราจะเป็นตัวช่วยผลักดันเมื่อเกิดสามจี
แนวโน้มธุรกิจ
  • รายได้ ม.ค. ปีก่อน กับ ธค.เพิ่มขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็น ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัว น่าจะเป็นสัญญาณบอกอะไรบางอย่างว่าสมาร์ทโฟนมาแรงจริง กระแส tablet ก็มา 
  • สองปีก่อน เราไม่ได้ขายไอโฟน ปีนี้เรากลายเป็นผู้ขายรายใหญ่ให้กับไอโฟน
  • อุปกรณ์เสริม ไตรมาสามของปี 54 กับ 55 กำไรขั้นต้นจาก 8 ล้าน เพิ่มมาเป็น 17 ล้านบาท
  • ที่น่าสนใจคือ 3G 2.1 GHz ยังไม่เริ่มยังทำได้ขนาดนี้ เชื่อว่าปีนี้จะเห็นสมาร์ทโฟนไปเบียดธุรกิจอื่น ปัจจุบันมีกล้องใส่ซิม Upload ขึ้นเฟซบุ๊คได้เลย ส่ง ไลน์ ได้ทันที 
  • สมาร์ทโฟนจะไปเบียดธุรกิจกล้องเข้ามาอยู่ในตัวมากขึ้นเหมือนที่ tablet ไปเบียดพวก notebook
  • ดังนั้นความต้องการของร้านค้ามือถือจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเพราะต้องรองรับสินค้าอีก เยอะมาก ตอนนี้ผมเปิดร้านต้องขอ 300 ตรม. อย่างต่ำ 
  • ทางแบรนด์ต่างๆ ก็พยายามนำสินค้าใหม่ๆ ออก และพวกนี้จะมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ อีกมหาศาล
  • ตอนนี้ 2.1 GHz ยังไม่เริ่ม ถ้าอีก 60ล้านคนย้ายมาจะเกิดอะไรขึ้น?
  • เมื่อก่อนหลายคนซื้อมือถือไปมาบุญครอง ตอนนี้ซื้อสมาร์ทโฟนไม่ได้ซื้อแค่โทร แต่เป็นเรื่องความรู้สินค้าบวกกับpackage จาก operator ไม่ได้เหมือนขายทีวี ตู้เย็น
  • Operator ก็ต้องการคนจัดจำหน่ายที่ช่วยให้ความรู้ลูกค้าอย่างถูกต้อง
  • Operator พยายามทำให้เกิดการย้ายระบบให้เร็วที่สุด ผมถึงบอกว่าปี 56 เป็นแค่การเริ่มต้น  
  • ผมเชื่อว่าดีลเลอร์ 1,000 กว่ารายที่เช่าพื้นที่ผมอยู่ จะช่วยทำหน้าที่จำหน่ายโทรศัพท์เครื่องละ 1-2 พันบาทให้ได้เป็นอย่างดี
  • ปี 55 3ไตรมาส กำไรเพิ่มขึ้น 77% ส่วนไตรมาส 4 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานมา เราไม่เคยทำสถิตินี้มาก่อน
  • ปี 56 ตั้งเป้าไว้ชัดเจน 40 40 คือ เติบโตทั้งรายได้และกำไร jmt เป้าหมายปี 56 เพิ่มอย่างน้อย 40%
  • 3 ปีที่ผ่านมาเราสามารถทำได้ตามสัญญาทุกครั้ง

สำหรับ CSL, SYMC, ILINK ดูเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้