หน้าแรก

2/23/2556

JMART : ดูงบบัญชีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปี 2555


เมื่อดูกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะเห็นว่าเงินสดดำเนินงานปี 2555 ติดลบอยู่ ดูแล้วตัวเลขส่วนนี้โยกไปอยู่สินค้าคงเหลือส่วนใหญ่ (มีลูกหนี้การค้าบ้างเล็กน้อย) แปลว่าสินค้าใน stock ตอนนี้เยอะกว่าปกติ

ข้อดีคือซื้อเยอะๆ ได้ราคาถูกกว่าปกติ ข้อเสียคือเสี่ยงสินทรัพย์ด้อยค่า

และเมื่อดูต้องส่วนของรายได้ค้างรับก็ติดลบเช่นกัน ผมคิดว่าน่าจะเป็นส่วนกลับทางบัญชี คือ ได้รับเงินล่วงหน้ามาแล้ว แต่ยังไม่ได้กระจายสินค้า ถ้ากระจายสินค้าออกไปส่วนของสินค้าคงเหลือก็ความเสี่ยงน้อยลง เพราะเราได้เงินล่วงหน้ามาแล้ว

แต่ก็ยังเหลือสินค้าคงเหลือมากอยู่ แน่นอนว่าถ้าทั้งหมดเป็นมือถือก็จะเสี่ยง แต่มันมีส่วนของอุปกรณ์เสริมอยู่ซึ่งพวกนี้มีอายุอยู่ได้เป็นปี และที่สำคัญมาร์จิ้นสูงมาก 

อัพเดต:
ข้อมูลยังไม่ถูกนะครับ แต่ผมไม่ลบเก็บไว้ศึกษาเพิ่มเติม เนื่องจากอยู่ๆ ผมก็นึกถึง Jay Market ขึ้นมาได้
รายได้ค้างรับ ที่เป็นตัวเลขในวงนั้นคือ "เพิ่มขึ้น" หมายความว่า ส่งสินค้าแล้วยังไม่ได้รับเงิน ถ้าทวงเงินไม่ได้ก็ขาดทุน

ดร. ภาพร เอกอรรถพร
จริงๆ รายการที่คุณพูดถึง 2 รายการคือ สินค้าคงเหลือและรายได้ค้างรับมีธรรมชาติที่เหมือนกันคือ เป็นสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งคู่ การที่สินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้นมีนัยว่าเงินสดลดลง หรือในทางกลับกัน เราสามารถตีความได้ว่า บริษัทจ่ายเงินซื้อสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น และให้ลูกค้าค้างเงินบริษัทมากขึ้น (รายได้ค้างรับคือ บริษัทให้บริการลูกค้าไปแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่ได้จ่ายเงิน)

สินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้น ถ้าเพิ่มเป็นปกติธุรกิจเนื่องจากขายขยายตัว ก็อาจไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าเพิ่มผิดปกติ ต้องหาเหตุผลประกอบว่าทำไม อาจเป็นเพราะบริษัทอาจเก็งกำไรเพราะสินค้ากำลังขาดตลาด หรือต้องการซื้อปริมาณมากเพื่อให้ได้ส่วนลด หรือคาดว่าราคากำลังจะขึ้น หรือขายสินค้าไม่ออก ฯลฯ
แต่สินค้าที่ซื้อเพิ่มขึ้นอาจไม่เป็นข้อบ่ง ชี้ว่าสินค้าจะล้าสมัยหรือไม่ (หรืออาจจะเป็น) พูดยากค่ะ คุณต้องดูอัตราส่วนอื่นประกอบ เช่น อัตราส่วนที่ใช้วัดว่าสินค้าน่าจะล้าสมัยคือ อัตราหมุนของสินค้าคงเหลือและจำนวนวันที่ถือสินค้าคงเหลือ ถ้ายิ่งยาวยิ่งมีโอกาสที่สินค้าคงเหลือนั้นจะล้าสมัยมากขึ้น
การ ประเมินสินค้าคงเหลือคงต้องดูหลายอย่างประกอบกัน การดูเฉพาะงบกระแสแล้วสรุปทันที อาจให้ข้อสรุปที่ไม่เที่ยงตรงทีเดียว เพราะแม้สินค้าคงเหลือเพิ่ม แต่ถ้าขายและต้นทุนขายเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่า การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลืออาจไม่เป็นปัญหาเลย

การวิเคราะห์งบกระแส เงินสดให้เน้นไปที่เรื่องของเงินสดว่าได้มาจากไหน ไหลออกทางไหน พอใช้หรือเปล่า แต่อาจไม่สามารถคิดไกลไปถึงประสิทธิภาพของการบริหารสินค้าคงเหลือค่ะ
ส่วน รายได้ค้างรับ ให้วิเคราะห์เช่นเดียวกับลูกหนี้ ในงบกระแสเงินสดเพียงแค่บอกว่ารายได้ค้างรับเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มแล้วดีไม่ดีอย่างไร ต้องไปวัดกันที่อัตราส่วนในการบริหาร เช่น อัตราการหมุนของลูกหนี้ จำนวนวันในการเก็บหนี้ และอื่นๆ เช่น แนวโน้ม อัตราส่วนร้อยละของยอกรวม ฯลฯ

ถ้าลูกค้าจ่ายเงินแล้ว เรายังไม่ได้ให้บริการเรียก รายได้รับล่วงหน้า ถือเป็นหนี้สินค่ะ ผลกระทบต่องบกระแสเงินสดคือ หนี้สินเพิ่ม เงินสดเพิ่ม