SNC : ผู้เปิดด้วยการขอโทษนักลงทุนที่ปีนี้ทำไม่ได้ตามเป้าที่พูดไว้ต้นปีว่าจะเติบโต 20%
สาเหตุตัวเลขกำไรที่ลดลง
1. แก้ปัญหาน้ำท่วม: โรงงานติดคลองพระโขนงถ้าปล่อยน้ำจะท่วมเข้าหลังโรงงานจึงย้ายไปชลบุรีและรีบ เร่งเดินสายการผลิตใน 2 อาทิตย์ และพอย้ายกลับมาก็ให้ทางเจ้าของพื้นที่เช่าปรับพื้นที่ถนนให้สูงขึ้นไป 2 เมตรจากถนน
2. ย้ายโรงงานรวมกัน: เราได้พื้นที่มาอีกเกือบ 10,000 ตารางเมตร เป็นโรงงานใหม่ และทำกำแพงกันน้ำท่วมถาวร ค่าใช้จ่ายหลายสิบล้าน
3. ลงทุนอนาคต: ทำโครงการพัฒนาสินค้าของเราเอง R&D ส่วนใหญ่ที่ขยายไปเป็นโครงการต้นน้ำเพื่อป้อนอุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องใช้ ไฟฟ้าไม่ใช่แค่แอร์ และพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท, ลงทุนอาคาร, เครื่องใช้สำนักงานสำนักงานที่ระยองและแหลมฉบัง
- ประเทศไทยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 แต่ประเทศใน AEC ใช้แค่เบอร์ 4 เราจะพัฒนาตรงนี้ให้ลูกค้าเอาไปขาย
- ลูกค้าหลักๆ อยู่ในญี่ปุ่น
- ในอนาคตเราจะพยายามไม่ใช่แรงงานคน ใช้เครื่องจักรอิเล็คโทนิคระบบลม ถ้าปีหน้าออกมาดี จะลงทุนโรบอทเพิ่มหมด
- ในอนาคตรับงานมากขึ้น ยากขึ้น แม่นยำมากขึ้น โดยไม่พึ่งคน
- โรงงานใหม่ที่เทพารักษ์เป็นโรบอทหมดไม่ใช่คน สิ้นปีนี้น่าจะเสร็จ
- ชิ้นงานใช้ plate ประมาณ 800 ตัน
- ในอดีตใช้คน ปัจจุบันใช้โรบอทจะลด cycle time ได้
- ลายผลิตที่ระยองถูกจองถึงสิ้นปีหน้าลงทุนลายละ 150 ล้าน ส่วนลาย transfer ลงทุนลายละ 100 ล้านบาท กำลังคิดว่าจะทำซัก 5 ลาย เสี่ยงทีเดียวเลย ถ้ารวยก็รวยเลย ถ้าเพิ่ม 5 ลายต้องกู้เงินเพิ่ม แต่ไม่เพิ่มทุน
Q&A
- ผู้บริหารบอกให้ข่าวกับนักวิเคราะห์ แต่ไม่ได้ให้ข่าวหนังสือพิมพ์
- ธุรกิจรถ จากการลดราคาให้ลูกค้ามีลูกค้ารายใหม่ใน order ทุกกลุ่มครับ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าในอนาคตจะติดต่อกับบริษัทแม่สำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่น
- ค่าแรง 300 บาท ในเดือนมกราไม่กระทบกับเรา เราปรับไปหมดแล้ว
- ที่ร่วมทุนกับ sugimoto ปีนี้ขาดทุน 30 ล้านบาท ปีหน้าจะทำกำไรให้ได้ ส่วนงานรถยนต์ปี 2013 ทำแม่พิมพ์ทั้งหมด ปี 2014 เริ่ม
- ปี 2013 ลงทุนกับ joint venture ประมาณ 600 ล้านบาท โดยจะกู้ประมาณ 400-500 ล้านบาท เรามีเงินหมุนเวียน 700-800 ล้านบาท
- *ผู้บริหารหลุดเซ็น joint venture กับเครื่องทำน้ำร้อนของฝรั่งเศษหลังพรีเซ็นต์เสร็จ พัฒนาสำเร็จหมดแล้ว เริ่มดำเนินการปี 2013 แต่ยอดยังไม่มาก
- ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายรายได้และกำไรปี 2013-2015 น่าจะขยับเกิน 15% จากฐานใหม่
- ถาม: SNC มีมุมมองอย่างไรกับการที่ Gree Electric Appliances Inc. of Zhuhai
(บ.ผลิตแอร์รายใหญ่ในจีน)ใช้กลยุทธ์แข่งราคา และพัฒนา เทคโนโลยี
รุกตลาดเครื่องปรับอากาศทั้งรถและบ้านโดยเฉพาะ
และมีแรงสนับสนุนจากรัฐเรื่อง Distribution & Logistics of Shenzhen
ด้วย
ตอบ: Gree รัฐบาลถือหุ้น การที่เราจะสู้ราคาคงไม่ได้ แต่กลุ่มลูกค้าบางกลุ่มถ้าแอร์ตัวเดียวกันหากผลิตที่จีนกับผลิตที่ไทย แอร์ที่ผลิตในไทยมีโอกาสขายได้มากกว่า - ถ้าจีนขายแข่งแอร์เบอร์ 5 ใน AEC ก็จะโดนภาษีและค่าขนส่ง แต่ถ้าเบอร์ 4 ก็อยู่ที่ลูกค้าเลือก ภายใต้ญี่ห้อญี่ปุ่น เรามั่นใจว่าจะขายได้ในฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
- *แต่ต้นปีจะมีข่าว SNC จับมือกับ Gree ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ที่แหลมฉบังภายใต้แบรนด์ญี่ปุ่น โครงการจะจบสิ้นปีนี้ถ้าสำเร็จ
- *แผนปีหน้าขยายงานต้นน้ำเพิ่มขึ้นและใช้แรงงานลดลง, อุตสาหกรรมรถยนต์จะขายให้ครบทุกยี่ห้อ, เครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำ OEM ให้ลูกค้าและมุ่งขาย AEC + 6(จีน, อินเดีย, ออสเตรเรีย, นิวซีแลนด์)
- Toptech diamond มี net profit 14-16% ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับแนวคิด และเทคโนโลยีการผลิต
- Toptech สร้างโรงงานเพิ่มอีก 1 โรง แต่ CEO บอกยังไม่ให้ใช้ ให้ใช้โรงงานเก่าให้เต็มประสิทธิภาพก่อน มี 1 โรงไม่ได้ใช้จึงต้องแบกค่าเสื่อม
- คาดว่าการที่ลูกค้าของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจะย้ายฐานการผลิตออกจากไทยคงเป็นไปได้ไม่ง่ายนัก เนื่องจากคู่แข่งเรามี 2 ที่คือเวียดนาม กับลาวซึ่ง Logistic กับสาธารณูปโภคยังสู้เราไม่ได้ โดยที่บริษัทก็ติดตามดูพัฒนาการของประเทศเหล่านี้อย่างใกล้ชิดขณะนี้มองว่าภายใน 2-3 ปีนี้บริษัทยังคงไม่ไปประเทศเหล่านั้น
- ธุรกิจไหนที่ SNC ไม่ถนัด - ธุรกิจเกษตร และเครื่องนุ่งห่ม
- Order ซูซูกิ เริ่มปี 2014 เป็น new model
- Shape มี order เดือนละประมาณ 10,000 เครื่อง(จากเดิม 3000) กำลังเจรจาผลิต Shape รุ่นใหม่อยู่
- งานรถยนต์คิดเป็น 8% ของรายได้รวม หากในอนาคตความต้องการซื้อรถลดลงก็กระทบไม่มาก ทางบริษัทก็ต้องขยายสัดส่วนยอดขายในส่วนงานนี้ตั้งเป้าปีหน้า 15% และจะทำให้ได้ 20%
- ทั้ง JV และ Take over ใช้วงเงิน 500 ล้านบาท แหล่งเงินจากการดำเนินงานและกู้เงินจากสถาบันการเงิน
- ปันผลปี 56 มีแนวโน้มลดลงจากปี 55 54 เพราะกำไรไม่ได้ ต้นสูงค่าใช้จ่ายสูง
- ตอนนี้มีหลายบริษัทที่ทำการฉีดพลากสติก และทำชิ้นส่วนรถยนต์ แต่เราเน้นการฉีดงานชิ้นใหญ่ ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ ราคาขายสูงกว่างานชิ้นเล็ก คู่แข่งในตลาดที่น้อยกว่า
- Q3 low season ถึงเดือนตุลา เริ่มผลิตได้มากขึ้น พฤศจิ ธันวา
- การแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ดุเดือด
- ลูกค้าคือคู่แข่ง(ลูกค้าผลิตเอง) เราทำต้นน้ำเองเกือบหมด เราจะได้เปรียบคู่แข่งตรงนี้
- เรื่องคุณสมชัย ceo ซื้อหุ้น SNC Innovation ซื้อหุ้น 15 ล้านบาทจบแล้ว จ่ายตั้งแล้ว เป็นของผมหมดแล้ว ส่วนเรื่องปันผลเมียผม(นางอนงค์นารถ)ก็ถือหุ้นรายใหญ่ SNC (ฮา)
- ปี56 & ปี57 Net profit margin target : Auto 12-15%, OEM 3%, Parts 9-11%, Overall 6-8%
- HTECH มีรายได้สูงกว่า Toptech 3 เท่า
- ค่าใช้จ่ายของโรงงานใหม่ของ toptech มูลค่า 20 ล้านบาท อายุการใช้งาน 30 ปี เท่ากับ ค่าเสื่อมราคาปีละ 6 แสนบาท
- การลงทุนใน Toptech มีผลกำไรแล้วใน Q3/55, การลงทุนใน SSMA ปี 2013 ตั้งเป้า จุดคุ้มทุน(breakeven) ปี 2014 ตั้งเป้ามีกำไร
- การใช้อลูมิเนียมทดแทนทองแดงให้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งการว่าจ้างบุคคลากรชาวญี่ปุ่นก็เพื่อจะมาเดินโครงการนี้ให้สำเร็จ
- งานOEM มี value added น้อย จึงมี profit margin น้อย ที่บริษัทรับทำงาน OEM เพราะ ต้องการควบทำงานต้นน้ำ ซึ่งมี value added และมี profit margin ที่ดี ส่วนการลงทุนสร้างธุรกิจใหม่ เมล็ดพันธ์ใหม่ๆ เป็นความจำเป็นการขยายธุรกิจในอนาคต
- กรณีแย่สุดปี 2012 SSMA คาดว่าจะขาดทุน 30 ล้าบาท โดย SNC รับรู้ 49% เท่ากับ 15 ล้านบาท ส่วนปี 2013 ตั้งเป้าจุดคุ้มทุน(breakeven)
- สิ่งที่ยังกังวลใจอยู่มากที่สุดในตอนนี้ คือ การพัฒนาบุคลากรในระดับกลาง และระดับต้น ให้ทันต่อการเติบโตของบริษัท
- คาดว่าเราจะผลิตแอร์ทั้งปีได้ประมาณ 400,000-500,000 เครื่อง
- เยี่ยมโรงงานแจ้งคุณดาวใจ dawjai@sncformer.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น